Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การก่อสร้างบ้านตึก

Posted By Plookpedia | 10 พ.ค. 60
1,191 Views

  Favorite

การก่อสร้างบ้านตึก


การก่อสร้างบ้านตึกจะต้องขุดหลุมตอกเข็มแล้วจึงทำฐานรากต่อจากนั้นก็หล่อคอนกรีตเสา คาน พื้นแล้วก่ออิฐ ติดวงกบหน้าต่างติดตั้งโครงหลังคามุงหลังคาด้วยกระเบื้อง หลังคาเมื่อมุงหลังคาเรียบร้อยแล้วจึงถือปูนผนัง ปูพื้นปาร์เกต์หรือทำพื้นหินขัดการทาสีใช้สีพลาสติกหรือสีน้ำปูนทาเพื่อความสวยงามของอาคารการสร้างบ้านตึกมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


การสร้างฐานราก 


ฐานรากที่ตั้งอยู่บนดินอ่อน เช่น ดินในกรุงเทพมหานครหรือดินในจังหวัดข้างเคียงจะต้องมีการตอกเข็มเพื่อให้เข็มรับน้ำหนักตัวบ้านเข็มที่ใช้ถ้าเป็นเข็มไม้จะต้องตอกให้หัวเข็มอยู่ลึกจากระดับผิวดินประมาณ ๑.๕๐ เมตร ทั้งนี้เพื่อให้หัวเข็มอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดินเพื่อกันมิให้เข็มผุถ้าใช้เข็มคอนกรีตก็อาจจะตอกเข็มให้หัวเข็มอยู่ต่ำกว่าดินหรือเสมอระดับดินก็ได้เมื่อตอกเข็มแล้วโกยเลนหัวเข็มออกประมาณ ๒๐ เซนติเมตร แล้วใช้ทรายหยาบอัดแน่นหรืออิฐหักลงหนาประมาณ ๑๐ เซนติเมตร แล้วเทคอนกรีตหยาบเพื่อทับหัวเข็ม (ส่วนผสมซีเมนต์ทรายและหิน ๑ : ๓ : ๕) ลงให้หนาประมาณ ๑๐ เซนติเมตร แล้วจึงตั้งตะแกรงเหล็กฐานรากและเหล็กเสาเทคอนกรีต (ส่วน ผสม ๑ : ๒ : ๔) ลงยังฐานรากให้ได้ความกว้าง ยาวและความหนาตามที่กำหนดไว้ในแบบเวลาเทคอนกรีตต้องคอยตักน้ำที่ซึมเข้ามาในหลุมออกอยู่เสมอและต้องกระทุ้งคอนกรีตให้แน่น เครื่องกระทุ้งอาจใช้เหล็กเส้นหรือไม้ระแนงก็ได้เทเสาขึ้นมาจนถึงใต้ท้องคานคอดินไม้แบบข้างเสาจะถอดออกได้ภายหลังจากที่ได้เทคอนกรีตแล้วนานประมาณ ๔๘ ชั่วโมง เมื่อแกะแบบแล้วจึงกลบหลุมแต่ละหลุมด้วยดินที่ขุดกองไว้ข้างเคียง

การขุดหลุมฐานรากพร้อมเข็มที่ตอกแล้ว

 

 

การทำเสา คาน และพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก


วิศวกรจะเป็นผู้คำนวณหาขนาดเสา คานและพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรวมทั้งเหล็กเสริมที่ใช้เป็นโครงคอนกรีตด้วยผู้ก่อสร้างจะต้องผูกเหล็กให้ตรงตามขนาดและมีระยะห่างเท่าที่กำหนดไว้ในแบบเมื่อผูกเหล็กแล้วจึงทำการปิดแบบใช้ดินเหนียวหรือถุงปูนอุดยาแนวกันน้ำปูนรั่วแล้วจึงเทคอนกรีตส่วนผสมซีเมนต์ : ทราย : หิน ๑ : ๒ : ๔ โดยปริมาตรลงในแบบดังกล่าวคอนกรีตที่ใช้เทนี้ต้องผสมโดยใช้น้ำให้พอเหมาะมิให้เปียกหรือแห้งเกินไปคอนกรีตที่เหลวเพราะใช้น้ำมากจะรับกำลังต้านทานได้น้อยคอนกรีตที่ใช้น้ำน้อยเกินไปก็จะทำให้เทลงในแบบได้ยากและถ้ากระทุ้งไม่ดีพอเมื่อแกะแบบแล้วจะขรุขระไม่เรียบร้อยบางทีเห็นเหล็กเสริมโผล่ออกมามิได้จมอยู่ในคอนกรีตตามต้องการ ทำให้เสียความแข็งแรงไปและเหล็กเสริมอาจเกิดสนิมได้ด้วย

งานขุดดินทำฐานราก

 

 

ไม้ที่ใช้หนุนใต้ท้องคานหรือพื้นคอนกรีตต้องทิ้งให้หนุนคานพื้นไว้อย่างน้อย ๔ สัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อคอนกรีตจะได้มีกำลังสูงสามารถรับแรงภายนอกได้คอนกรีตที่แข็งตัวใหม่ต้อง ระวังอย่าให้ถูกแดดกล้ามิฉะนั้นคอนกรีตอาจจะแตกร้าวเพราะการขยายตัวต้องราดน้ำวันละหลาย ๆ ครั้งด้วยหรือจะใช้กระสอบชุบน้ำให้ชุ่มคลุมไว้การบ่มคอนกรีตดังกล่าว ควรจะกระทำอย่างน้อย ๗ วัน นับแต่คอนกรีตเริ่มแข็งตัว 


การก่ออิฐและการถือปูน


ปูนก่อใช้เป็นเครื่องยึดแผ่นอิฐแต่ละแผ่นให้ติดกันส่วนผสมของปูนก่อนั้นเขาใช้ปูนซีเมนต์ : ปูนขาว : ทราย ใน อัตราส่วน ๑:๑:๔ โดยปริมาตรผสมกับน้ำสำหรับปูนฉาบหรือปูนถือนั้นก็ใช้ส่วนผสมอย่างเดียวกันก่อนก่ออิฐต้องนำอิฐไปจุ่มน้ำหรือราดน้ำให้เปียกชุ่มเสียก่อนทั้งนี้เพื่อกันไม่ให้อิฐแย่งน้ำจากส่วนผสมของปูนก่อปกติเขามักจะหมักทรายกับปูนขาวไว้ค้างคืนเมื่อถึงเวลาจะก่ออิฐหรือถือปูนจึงผสมปูนซีเมนต์ลงไปเมื่อผสมปูนซีเมนต์กับน้ำแล้วจะต้องใช้ให้หมดภายใน ๑ ชั่วโมง ถ้าช้ากว่านี้ปูนซีเมนต์จะเริ่มแข็งตัว ซึ่งจะนำไปใช้อีกไม่ได้

 

อิฐที่ใช้ก่อสร้างทำจากดินเหนียวผสมทรายประมาณร้อยละ ๑๐ ปั้นให้เป็นรูปร่าง โดยใช้คนปั้นหรือใช้เครื่องจักรอิฐที่ปั้นเป็นรูปแล้วต้องผึ่งไว้ในที่ร่มหรือให้ถูกลมอุ่นพัดผ่าน ประมาณ ๒–๓ วัน เพื่อกันมิให้อิฐบิดตัวหรือแตกร้าวเมื่อนำไปเผาอิฐที่แห้งแล้วจะถูกลำเลียงเข้าไปในเตาเผาอิฐการเผาอิฐจะต้องเพิ่มความร้อนในเตาทีละน้อย ๆ จนอุณหภูมิในเตาเผาสูงประมาณ ๘๐๐-๙๐๐ องศาเซลเซียส เมื่อเผาด้วยอุณหภูมิสูงนานประมาณครึ่งวันอิฐก็จะสุกอิฐที่เย็นแล้วอาจนำมาใช้งานได้ทันที

การเทคอนกรีตฐานราก

 

 

การทำประตูหน้าต่างและวงกบ 


บานประตูมักทำด้วยไม้สัก ไม้อัดหรือกระจกชนิดหนาส่วนบานหน้าต่างมักใช้ไม้สักไม้เนื้อแข็งหรือกระจกวงกบประตูหน้าต่างมักใช้ไม้สัก ไม้แดง ไม้ตะเคียนทองหรือไม้เนื้อ แข็งชนิดอื่นความหนาของประตูหน้าต่างที่ทำด้วยไม้ควรหนาไม่ต่ำกว่า ๑ ๑/๔  นิ้ว ไม้วงกบควรใช้ขนาด ๒ นิ้ว x ๔ นิ้ว เหนือประตูหน้าต่างมักติดช่องกระจกหรือช่องลมซึ่งมีชนิดพลิกได้หรือปิดตาย บานพับ กลอน หูจับ ขอรับ ขอสับ ทำด้วยโลหะ


การทำห้องน้ำห้องส้วม 


สุขภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำมักประกอบด้วยอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำหรือที่อาบน้ำฝักบัวและที่นั่งถ่ายชนิดชักโครกนอกจากนั้นยังมีกระจกเงาติดตั้งเหนืออ่างล้างหน้าราวสำหรับแขวนผ้า ที่วางสบู่และที่ใส่กระดาษชำระพื้นห้องน้ำเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปูด้วยหินขัดหรือมิฉะนั้นก็ใช้กระเบื้องโมเสกชนิดเล็กผนังของห้องมักนิยมปูด้วยกระเบื้องเคลือบ ขนาด ๑๐ เซนติเมตร x ๑๐ เซนติเมตร หรือ ๑๕ เซนติเมตร x ๑๕ เซนติเมตรและปูสูงจากพื้นระยะ ๑.๕๐ เมตร น้ำชักโครกจะพาสิ่งสกปรกไหลไปยังบ่อเกรอะและมีท่อต่อจากบ่อเกรอะไปยังบ่อซึมน้ำอาบน้ำล้างหน้าจะไหลไปยังท่อน้ำทิ้งซึ่งจะต่อเข้ากับท่อระบายน้ำซึ่งระบายน้ำฝนต่อออกไปยังท่อระบายน้ำของถนนหน้าบ้าน

 

เพื่อความสะดวกห้องน้ำชั้นบนมักจะถูกจัดไว้ให้ติดกับห้องนอนโดยมีประตูปิดระหว่างห้องทั้งสองบ้าน ๒ ชั้นมักมีห้องน้ำอยู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่างห้องน้ำต้องมีช่องแสงสว่าง และช่องระบายอากาศให้อากาศถ่ายเทได้

ห้องน้ำแบบต่างๆ ของอาคารบ้านเรือน

 

 

บ้านตามชนบทนิยมทำห้องน้ำและห้องส้วมแบบประหยัดเสียค่าใช้จ่ายน้อยห้องน้ำและห้องส้วมบางบ้านก็จัดไว้เป็นห้องเดียวกันโดยมีผนังกั้นแยกส่วนบางบ้านจัดแยกไว้คนละห้องพื้นห้องน้ำและห้องส้วมจะต้องทำให้สูงกว่าระดับดินบริเวณบ้านทั้งนี้เพื่อให้น้ำที่ใช้แล้วไหลไปยังบ่อพักหรือบ่อเกรอะได้รวดเร็วไม่ค้างขังอยู่ในท่อ

 

เราทำพื้นห้องน้ำโดยใช้อิฐหักลงหนาประมาณ ๑๐ เซนติเมตร แล้วกระทุ้งให้แน่นต่อจากนั้นก็ผสมคอนกรีตส่วนผสม ๑ : ๒ : ๔ เททับลงบนอิฐหักให้ความหนาของพื้นอยู่ระหว่าง ๘–๑๐ เซนติเมตร ในการเทคอนกรีตบางครั้งก็นิยมผูกเหล็กเป็นตะแกรงโดยใช้เหล็กขนาดศูนย์กลาง ๖ มิลลิเมตร ผูกระยะห่าง ๑๕–๒๕ เซนติเมตรทั้งสองข้างวางตะแกรงเหล็กให้ต่ำจากผิวบนของคอนกรีตประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร เหล็กเสริมที่ใส่นี้จะช่วยป้องกันมิให้พื้นคอนกรีตแตกร้าวเนื่องจากการขยายตัวและหดตัวซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบางบ้านอาจทำพื้นห้องน้ำโดยใช้ปูนทรายส่วนผสม ๑:๓ เทหนาประมาณ ๕–๘ เซนติเมตร ก็ใช้ได้ผนังห้องน้ำมักจะใช้ฝาไม้ตีติดกับเคร่าฝาจะใช้ผนังกระเบื้องกระดาษก็ได้ภายในห้องจะต้องมีก๊อกน้ำอยู่อย่างน้อย ๑ ก๊อก และบางครั้งก็ติดตั้งฝักบัวอีก ๑ ฝัก สำหรับใช้อาบน้ำส่วนก๊อกน้ำนั้นใช้ประโยชน์ในการนำไปใช้ในการซักฟอกเสื้อผ้าหลังคาห้องน้ำมุงด้วยสังกะสีหรือกระเบื้องลอน

ห้องน้ำแบบต่าง ๆ ของอาคารบ้านเรือน

 

 

สำหรับห้องส้วมแบบประหยัดนั้นเขาจะขุดดินลงไปลึกประมาณ ๑.๐๐–๑.๕๐ เมตร ให้มีความกว้างประมาณ ๘๐ เซนติเมตร ซึ่งโตพอฝังถังส้วมชนิดสี่เหลี่ยมหรือชนิดกลมได้ ตั้งแต่ ๓–๕ ถัง เรียงต่อกันจากก้นหลุมขึ้นมาบ่อที่กล่าวนี้เรียกว่าบ่อเกรอะหลังจากขุดบ่อเกรอะแล้วช่างจะขุดบ่อซึมขึ้นมาอีกบ่อหนึ่งโดยอยู่ใกล้กับบ่อเกรอะและมีขนาดไล่เลี่ยกันช่างปูนจะก่ออิฐโปร่งขึ้นภายในบ่อซึมสำหรับให้น้ำที่ต่อมาจากบ่อเกรอะมาถึงบ่อนี้ได้มีโอกาสซึมไปใต้ดินได้โดยทั่วท่อที่เชื่อมระหว่างบ่อเกรอะกับบ่อซึมนี้อาจใช้ท่อเหล็กหรือท่อกระเบื้องขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางควรโตประมาณ ๑๐ เซนติเมตร ฝังให้ลึกจากดินประมาณ ๒๐–๓๐ เซนติเมตร สำหรับบ่อซึมนั้นจะต้องทำฝาปิดทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เศษดินทรายตกลงไปในบ่อได้บ่อเกรอะนั้นก็จะเป็นส่วนที่อยู่ภายในห้องส้วมมีที่นั่งถ่ายตั้งอยู่บนฝาบ่อซึ่งเจาะรูโตไว้พื้นห้องส้วมก็สูงจากพื้นดินประมาณ ๒๐–๓๐ เซนติเมตร ส่วนที่นั่งถ่ายจะสูงจากพื้นห้องขึ้นไปประมาณ ๒๐ เซนติเมตร เพื่อให้การรดน้ำสิ่งปฏิกูลในที่นั่งถ่ายเป็นไปโดยสะดวกควรจะมีการติดตั้งท่ออากาศโดยใช้ท่อน้ำประปาโตประมาณ ๓/๔  นิ้ว โดยต่อเข้ากับตอนบนของบ่อเกรอะทั้งนี้เพื่อให้ก๊าซที่เกิดจากการหมักหมมของอุจจาระ ได้มีโอกาสลอดออกไปได้ซึ่งจะเป็นการลดความดันของก๊าซในบ่อเกรอะทำให้น้ำที่เราราดไหลลงในบ่อเกรอะพร้อมอุจจาระได้สะดวกภายในห้องส้วมจะมีที่ติดกระดาษชำระแขวนไว้และมีโอ่งน้ำขนาดเล็กพร้อมขันตักน้ำชำระ


การติดตั้งท่อระบายน้ำ 


น้ำที่ใช้ซักฟอกเสื้อผ้าชำระร่างกายล้างถ้วยล้างชามรวมทั้งน้ำฝนที่ตกลงมาในบริเวณบ้านจะต้องได้รับการระบายให้ออกไปยังท่อระบายน้ำสาธารณะซึ่งอยู่ ๒ ข้างของถนนที่ตัดผ่านหน้าบ้านของเราเรามักสร้างบ่อพักน้ำเสียขึ้นชิดรั้วบ้านทางด้านติดถนนแล้ววางท่อระบายน้ำไว้โดยรอบบริเวณบ้านโดยใช้ท่อโตประมาณ ๑๕–๒๐ เซนติเมตร วางให้มีความลาดชันประมาณ ๑ : ๒๐๐–๑ : ๕๐๐ และมีบ่อพักขนาดเล็กรับน้ำเป็นช่วง ๆ ช่วงหนึ่งไม่ควรยาวเกิน ๖ เมตร บ่อพักรับน้ำนี้เป็นบ่อคอนกรีตหรือบ่อก่ออิฐโบกปูนก็ได้ ขนาดของบ่อมีขนาดกว้าง ยาว ประมาณ ๓๐ เซนติเมตร x ๔๐ เซนติเมตร ก้นบ่อลึกประมาณ ๕๐ เซนติเมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมรูปร่างคล้ายหีบโดยมีฝาปิดบ่อพักเป็นรูปตะแกรงเหล็กรับน้ำผิวบนของฝาตะแกรงเหล็กอยู่ต่ำกว่าระดับดิน ๒–๕ เซนติเมตร เมื่อท่อระบายน้ำตันเพราะมีดินทรายเข้ามาอุดเขาก็จะเปิดฝาบ่อพักเพื่อโกยดินทรายในบ่อพักออกแล้วใช้ลวดหรือเหล็กเส้นขนาดเล็กปลายข้างหนึ่งผูกเศษผ้าหรือเศษกระสอบป่านแยงไล่ดินทรายที่เข้ามาอุดในท่ออันเป็นเหตุให้น้ำระบายไหลไม่สะดวกเมื่อดินทรายหลุดออกไปหมดแล้วน้ำเสียในท่อก็จะไหลได้สะดวกน้ำใช้ทั้งหลายจะไหลมาทางท่อน้ำทิ้งลงไปยังบ่อพักบ่อใดบ่อหนึ่งของท่อระบายน้ำที่วางไว้รอบบ้านฝนที่ตกลงยังบริเวณบ้านก็จะไหลไปลงบ่อพักเช่นเดียวกันแล้วจะไหลมารวมกันยังบ่อพักซึ่งอยู่ชิดรั้วด้านถนนจากนี้จึงต่อท่อระบายน้ำจากบ่อพักอันนี้ไปยังท่อระบายน้ำสาธารณะ

รางรับน้ำฝนและระบบการระบายน้ำเสีย

 

 

ในกรณีที่ไม่มีท่อระบายน้ำสาธารณะฝังหน้าบ้านเราก็อาจจะต่อท่อน้ำทิ้งดังกล่าวให้ลงไปยังคูคลองที่พอจะระบายน้ำทิ้งได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow